ค่า MacAdam Step คืออะไรในหลอดไฟ LED? มีผลต่อคุณภาพหรือไม่

ค่า MacAdam Step คืออะไรในหลอดไฟ LED มีผลต่อคุณภาพหรือไม่

ค่า MacAdam Step คืออะไรในหลอดไฟ LED? มีผลต่อคุณภาพหรือไม่

MacAdam Step อาจฟังดูเป็นคำศัพท์เชิงเทคนิคที่หลายคนไม่คุ้นเคย แต่ในวงการแสงสว่าง โดยเฉพาะหลอดไฟ LED ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนด “คุณภาพของแสง” และ “ความแม่นยำของสี” ได้อย่างแม่นยำ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับค่า MacAdam Step ว่าคืออะไร ทำไมถึงมีผลต่อคุณภาพของหลอดไฟ LED และควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงาน

MacAdam Step คืออะไร?

MacAdam Step (หรือที่เรียกว่า SDCM – Standard Deviation of Color Matching) คือ หน่วยวัดที่ใช้แสดง ความแตกต่างของสีแสง (Color Consistency) ที่สายตามนุษย์สามารถสังเกตเห็นได้จากหลอดไฟ LED โดยพิจารณาจาก “ความแม่นยำของสีแสง” เมื่อเปรียบเทียบระหว่างหลอดไฟแต่ละดวงที่มีค่า CCT (Correlated Color Temperature) เดียวกัน

ค่า MacAdam Step แสดงออกมาเป็น “ขั้น” หรือ “วงรี” บนแผนภูมิสี CIE 1931 โดยยิ่งจำนวนขั้นมาก แสดงว่าสีแสงเพี้ยนจากจุดศูนย์กลางมากขึ้น ซึ่งตามสายตาคนเราจะเริ่มมองเห็นความต่างของแสงได้เมื่อเกินระดับ 3 Step ขึ้นไป

MacAdam Step คืออะไร

MacAdam Step มีกี่ระดับ? ความหมายของแต่ละขั้น

ค่า MacAdam Step มักจะถูกแบ่งออกเป็นระดับดังนี้:

ระดับ ความสม่ำเสมอของสีแสง การใช้งานที่แนะนำ
1-Step ความแม่นยำสูงสุด สีตรงเป๊ะ งานสตูดิโอ กล้องถ่ายภาพ
2-Step สีแสงเกือบสมบูรณ์แบบ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์
3-Step แสงสม่ำเสมอมาก โชว์รูม ร้านค้า โรงแรม
4-5 Step แสงเริ่มมีความต่างเล็กน้อย บ้านพักอาศัยทั่วไป
6 Step ขึ้นไป สีแสงต่างชัดเจนในบางมุมมอง โคมไฟภายนอก หรือพื้นที่ไม่เน้นเรื่องสี

ตัวอย่างความคลาดเคลื่อนสีของแสง

ความต่างของ MacAdam Step

ทำไม MacAdam Step ถึงสำคัญในหลอดไฟ LED?

หลอดไฟ LED ไม่เหมือนหลอดไส้หรือฟลูออเรสเซนต์ เพราะการผลิตแสงสีขาวของ LED ต้องใช้เทคโนโลยีการผสมสีของชิปแสง และการเคลือบฟอสเฟอร์ ซึ่งอาจเกิด “การเบี่ยงเบนของสี (Color Binning)” ได้ แม้จะผลิตจากไลน์เดียวกัน

ดังนั้น ค่า MacAdam Step จึงเป็นตัวบ่งชี้ว่า:

  • หลอดไฟ LED แต่ละดวงในล็อตเดียวกัน ให้แสงสม่ำเสมอหรือไม่

  • มี สีแสงตรงตามที่ระบุไว้ในฉลาก หรือเกิดความผิดเพี้ยน

  • เมื่อนำไปใช้งานร่วมกัน เช่น โคมไฟเพดานหลายจุดในห้องเดียวกัน แสงจะ ดูสบายตาหรือไม่

MacAdam Step มีผลต่อคุณภาพของหลอดไฟ LED อย่างไร?

1. ความสม่ำเสมอของแสง

หลอดไฟ LEDที่มีค่า MacAdam Step ต่ำจะให้แสงที่ใกล้เคียงกันมาก เมื่อนำมาใช้งานหลายดวงในพื้นที่เดียวกัน สีแสงจะดูเรียบเนียน ไม่มีจุดไหนดูสว่างเหลืองหรือขาวเพี้ยนกว่ากัน

2. ภาพลักษณ์ของสถานที่

สำหรับโรงแรม, ร้านอาหาร, พิพิธภัณฑ์ หรือโชว์รูมที่ต้องการ “บรรยากาศแสง” ที่ดูดีสม่ำเสมอ ค่า MacAdam Step ที่ต่ำจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้หรือผู้ชม

3. มาตรฐานโรงงานและการควบคุมคุณภาพ

ผู้ผลิตที่ใส่ใจในคุณภาพของแสง จะเลือกใช้ชิป LED ที่ผ่านการคัดแยก (binning) อย่างละเอียด เพื่อให้ค่า SDCM อยู่ในระดับ 3-Step หรือต่ำกว่า

4. ความรู้สึกของผู้ใช้งาน

แม้สายตามนุษย์จะเริ่มรู้สึกถึงความแตกต่างของสีแสงที่ต่างกันเกิน 3-Step แต่เมื่อหลอดไฟ LED หลายดวงมีแสงที่ไม่เหมือนกันในห้องเดียวกัน จะรู้สึกว่า “แสงไม่สบายตา” หรือ “บรรยากาศดูผิดธรรมชาติ”

MacAdam Step ต่างจาก CRI ยังไง?

หลายคนมักสับสนระหว่าง MacAdam Step กับ CRI (Color Rendering Index)
แต่ทั้งสองอย่าง มีบทบาทต่างกัน ดังนี้:

คุณสมบัติ MacAdam Step CRI
วัดอะไร ความแม่นยำของโทนสี ความเที่ยงตรงในการแสดงสี
สำคัญกับ ความสม่ำเสมอของแสงหลายดวง ความชัดเจนของสีวัตถุที่ถูกส่อง
ค่าแนะนำ ยิ่งน้อยยิ่งดี ยิ่งใกล้ 100 ยิ่งดี

ดังนั้น หลอดไฟที่ดีควรมีทั้ง CRI ≥ 80–90 และ MacAdam Step ≤ 3 เพื่อคุณภาพแสงที่ดีทั้งด้านการมองเห็นและการใช้งาน

สรุป: MacAdam Step คือกุญแจสู่คุณภาพแสงที่เหนือกว่า

MacAdam Step คือดัชนีวัดความแม่นยำของสีแสงในหลอดไฟ LED ที่มีผลโดยตรงต่อความสม่ำเสมอ ความสวยงาม และความรู้สึกของผู้ใช้งาน หากกำลังเลือกซื้อหลอดไฟ LED สำหรับงานคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายใน ร้านค้า โรงแรม หรืออาคารที่เน้นภาพลักษณ์ ควรเลือกหลอดที่มีค่า MacAdam Step ต่ำไว้ก่อนเสมอ

ENRICH สว่างแน่ ประหยัดด้วย ครบจบเรื่องแสงสว่าง แบรนด์สปอร์ตไลท์ LED โคมไฟถนน LED โคมไฮเบย์ หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์และเสาไฟ ดีไซน์สวย ทนทาน เหมาะกับทุกพื้นที่ใช้งาน ทั้งภายในและภายนอก สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @enrichlighting หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *